ความรู้เกี่ยวกับกล้องติดตั้งในรถยนต์ทำไมจึงต้องติดทำไมต้องซื้อ
กล้องติดตั้งในรถยนต์ส่วนมากลูกค้าหลายท่านยังคงสงสัยอยู่ว่าซื้อไปติดทำไมประโยชน์คุ้มค่ากับราคาที่ซื้อหรือไม่ทำไมต้องซื้อประโยชน์มันคืออะไรถ้าจะพูดหรือเปรียบเทียบนั้นมันคือกล้องวีดีโอนั่นเองแต่เรื่องของความชัดนั้นอาจจะไม่เท่าแต่วิธีการทำงานคล้ายคลึงกัน แต่เรานำกล้อง VDO มาติดหน้ารถหรือเรียกแบบง่ายๆมันคือกล้องติดหน้ารถ กล้องสำหรับติดรถยนต์จะคอยบันทึกภาพเหตุการณ์ต่างๆที่เราพบเห็นกันทั้งในข่าว คลิบ Youtube หรือแม้กระทั่ง Website ต่างๆ เช่นคลิปที่มีการทะเลาะกันหรือมีรถยนต์ชนกันนั่นคือภาพจากกล้องหน้ารถยนต์ที่เกิดจากการบันทึก แม้กระทั่งคุณจะปวดหวัทำไมว่าใครผิดใครถูกเรามีหลักฐานก็เปิดดูท่านลูกค้าลองคิดดูสิครับถ้าวันหนึ่งมีกฎหมายออกมาว่าให้รถยนต์ทุกคันติดกล้องเพื่อการติดรถยนต์เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ บางครั้งทะเลาะกันถึงขั้นต้องเอาปืนมายิงกันเลยทีเดียว
เริ่มแรกเลยทางร้านขอแนะนำ Function หลักๆของกล่องบางรุ่นหรือบางรุ่นอาจจะมีครบเลยก็ว่าได้ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับราคาของกล้องติดหน้ารถด้วย
- Automatically turn off after car stop,Automatically recording after car start (กล้องใช้สำหรับติดรถยนต์ที่มีความสามารถพื้นฐานเลยคือเมื่อเราสตาร์ทรถยนต์ตัวกล้องติดรถก็จะทำการเปิดเครืองและทำการบันทึกให้โดยอัตโนมัต และกล้อง ติดรถยนต์จะหยุดบันทึกนั้นก็ต่อเมื่อเรากดปุ่มหยุดบันทึกเหตุการณ์หรือว่ากล้อง ติด รถยนต์บางรุ่นจะมีการตั้งเวลาได้ว่าเมื่อเราดับเครื่องยนต์แล้วจะให้ตัวกล้องดับเวลาเท่าไหร่บาง เช่นกล้องติดรถบางรุ่นจะตั้งเวลาให้ดับได้ตั้งแต่ 5,10,15 และไม่ให้ดับเลยโดยถ้าเราตั้งไม่ให้ตัวกล้องประกอบติดรถยนต์ดับนั้นตัวกล้องติดรถก็จะอาศัยแบตเตอรี่ของตัวกล้องติดตั้งภายในรถยนต์เองคอยบันทึกเหตุการณ์ต่อแต่ตั้งแต่ทางร้านขายมาจะไม่นำให้ลูกค้าใช้ Function ไม่ดับเลยเพราะว่าค่าที่ Setting จากตัวกล้องใช้เพื่อติดรถยนต์นั้นจะไม่จำค่าเลย)
- Wide angle len (กล้อง ติด รถยนต์บางรุ่นจะมีเลนส์มุมที่กว้าง สามารถบันทึกเหตุการณ์ได้กว้างและทั่วถึงซ้ายขวามั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพของกล้องสำหรับติดรถยนต์แต่ละรุ่นด้วย)

- Cycle recording (overwrite first file if memory is full)(กล้องติดรถยนต์มีความสามารถที่จะบันทึกเหตุการณ์อย่างต่อเนื่องไม่มีที่สิ้นสุด โดยเมื่อหน่วยความจำเต็ม กล้องติดรถยนต์ก็จะทำการลบไฟล์ที่เก่าที่สุดออกไป )
- Time slice (ไฟล์วีดีโอของ กล้องติดรถยนต์ จะได้ไม่ได้เป็นไฟล์ยาวๆ ไฟล์เดียวเหมือนกล้อง VDO แต่จะแบ่งออกเป็นไฟล์ย่อยๆเช่น 2 นาที,5นาที,15นาทีต่อไฟล์ที่ต้องแบ่งเป็นไฟล์เป็นช่วงแบบนี้ก็เพื่อรองรับความสามารถของ cycle recording ของกล้องติดรถนั่นเอง)
- ยกตัวอย่าง Time slice 2 นาทีถ้าเราบันทึกจนเต็มก็จะได้ 30 ไฟล์แล้วกล้องก็จะลบไฟล์ที่เก่าที่สุดออก 1 ไฟล์ (2 นาที) แล้วจึงบันทึกเหตุการณ์ใหม่ แสดงว่าเรามีข้อมูลตั้งแต่นาทีที่ 2.01 ถึงนาทีที่ 61:00 หายไปสองนาที ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรุ่นของกล้องติดรถยนต์ของแต่ละรุ่น ว่าสามารถเลือกโหมดการบันทึกได้กี่นาทีและขนาดของเมมโมรี่กาดด้วยแต่ตั้งแต่ที่ร้านเราขายมาก็จะมีให้เลือกโหมดตั้งแต่ 2,5,10,15
- เทคโนโลยีการบีบอัด file ภาพ ของกล้องติดรถยนต์ (ทั้ง M-JPEG และ H.264 นั้นคือเทคโนโลยีบีบอัด File ข้อมูล โดยกล้องติดรถยนต์ระดับล่างๆจนถึงกล้องติดรถระดับกลางๆจะใช้ M-JPEG เนื่องจากใช้อุปกรณ์ราคาไม่แพงสามารถทำราคากล้องติดรถให้ถูกลงได้ แต่ข้อเสียเห็นได้ชัดเลยก็คือใช้หน่วยความจำสูงถ้าเราบันทึก VDO ที่ความละเอียด 1280x7209ต้องใช้พื้นที่ถึง 4.5GB/Hour ต่างกับ H.264 ที่เป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ราคาอุปกรณ์แพงกว่า M-JPEG ราคากล้องติดรถก็จะสูงขึ้นแต่มีข้อดีที่ใช้หน่วยความจำที่น้อยลง การบันทึกขนาดเท่ากันของกล้องติดรถก็จะใช้พื้นที่ 2.4GB/HOUR)
- Seamless recording (no leak second) กล้องติดรถยนต์ โดยทั่วไปนั้นจะเกิดการ "รั่ว" (leak) ของเหตุการณ์ในระหว่างไฟล์ข้อมูล มากน้อยต่างกันไปทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับกล้องติดรถยนต์แต่ละรุ่นและขึ้นอยู่กับความเร็วหน่วยความจำที่เราเลือกใช้ ซึ่งกล้องติดรถยนต์ที่ร้านผม leak จะไม่เกิน 3 วินาที เมื่อนำไฟล์มาเปิดดูต่อกันไปเรื่อยๆ ก็จะมองออกว่าจะหายไป 3 วินาที ซึ่งถ้าเกิดเหตุการณ์ระหว่าง ช่วงที่ (Leak)นั้นเราก็จะไม่มีหลักฐานของภาพนั้นๆ ซึ่งเราสามารถลดจำนวนการ Leak ของกล้องติดรถยนต์ ได้โดยการเลือก Time Slice มากๆ ได้ แต่ต้องแลกกับเวลาที่หายตามที่ได้กล่าวไว้ในหัวข้อของ Time Slice ซึ่งกล้องติดรถยนต์ระดับกลางขึ้นไปนั้นจะสามารถบันทึกเหตุการณ์ครบถ้วนทุกวินาที ไม่เกิดการ Leak เลย เรียกว่า Seamless recording
- Motion Detection กล้องติดรถยนต์บางรุ่นมีความสามารถบันทึก "ความเคลื่อนไหว"เมื่อกล้องติดรถตรวจพบความเคลื่อนไหวในขณะที่เราจอดรถทิ้งเอาไว้ได้ ซึ่งจะบันทึกที่ Frame Rate ต่ำๆ เช่น Fps เพื่อไม่ให้เปลืองหน่วยความจำมาก โดยอาจจะใช้ไฟจากตัวกล้องติดรถยนต์ โดยอุปกรณ์เสริมที่ว่านี้จะตัดไฟเมื่อไฟจากแบตเตอรี่รถยนต์ โดยอุปกรณ์เสริมที่ว่านี่จะตัดไฟเมื่อไฟจากแบตเตอรี่รถยนต์เมื่อต่ำกว่าระดับที่เรากำหนดไว้ได้ เพื่อป้องกันแบตเตอรี่รถยนต์หมดนั่นเอง
- G-sensor กล้องติดรถบางรุ่นจะมีระบบ G-sensor เซ็นเซอร์วัดแรง G เมื่อเกิดแรง G อย่างรุนแรง เช่น เบรคกระทันและเกิดการชนกันขึ้นนั้น กล้องติดรถยนต์จะทำการป้องกันไม่ให้ไฟล์ข้อมูลภาพที่กำลังบันทึกจากกล้องติดรถนั้นถูกเขียนทับ โดยไฟล์ที่ถูกการบันทึกโดยวิธีนี้ จะดึงช่วงเวลาก่อนเกิดเหตุการณ์ มารวมเอาไว้อยู่ใน File ผมขอยกตัวอย่างเช่น เกิดการชนกันของรถยนต์ในช่วงเวลา 13:00 น. กล้องติดรถจะบันทึก File นี้เอาไว้ตั้งแต่ 12:59:30 เป็นต้นไป (เวลาที่ Pre-recording จะขึ้นอยู่กับกล้องติดรถยนต์แต่ละรุ่น) เพื่อที่เมื่อเราเปิด File ขึ้นมาดู จะได้รู้ว่าสาเหตุนั้นเกิดจากอะไร
- Emergency Button กล้องติดรถบางรุ่น จะมีระบบ G-sensor นั้นทำงานให้โดยอัตโนมัติ ไม่สามารถสั้งงานตามใจเราได้ กล้องติดรถยนต์บางรุ่นได้ออกแบบให้มีปุ่มนี้ให้ใช้งาน (ปุ่ม emergency button) แบบแมนวลเพื่อป้องกันการเขียนไฟล์ทับ โดยใช้วิธีแบบเดียวกับ Pre-recording แบบเดียวกับ G-sensor ผมขอยกตัวอย่างเพื่อความเข้าใจ เช่น เมื่อคุณขับรถอยู่แล้วถูกรถคันข้างหน้าลงมาชวนหาเรื่องหรือมีคลิปที่ออกมาล่าสุดที่ตำรวจยกกันมาทั้งโรงพัก เราก็กดปุ่ม emergency button เพื่อบันทึกเหตุการณ์เอาไว้ เราก็แน่ใจได้เลยว่า File นั้นจะยังอยู่จะไม่ถูกเขียนทับอย่างแน่นนอน แต่ผมขอแจ้งก่อนนะครับว่าจะมีปุ่มนี้เฉพาะกล้องติดรถบางรุ่นเท่านั้น ก่อนใช้งาน emergency button โปรดศึกษาข้อมูลของกล้องติดรถยนต์ที่คุณใช้ก่อนว่ารองรับ File ที่ถูกบันทึกด้วยวิธีการนี้สูงสุดกี่ File กล้องติดรถบางรุ่น รองรับได้ 10 File หากคุณกดปุ่ม emergency button บ่อยๆ โดยเข้าใจว่า File จะถูกเก็บเอาไว้นั้นอาจไม่ถูกเขียนทับ แล้วพอจะใช้ File ขึ้นมาก็ไม่มีข้อมูลอยู่เสียแล้วกล้องติดรถยนต์บางตัวให้ใช้ Function นี้โดยให้พื้นที่ในการจัดเก็บถึงครึ่งหนึ่งของหน่วยความจำ แต่ยิ่งมี emergency เกิดขึ้นมาก ก็กินพื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูลมาก เนื้อที่ในการจัดเก็บเหตุการณ์ปกติก็จะเหลือน้อยลงไปนั่นเอง พื้นที่ข้างต้นเป็นเพียงการยกตัวอย่างของกล้องติดรถยนต์บางรุ่นเท่านั้นก่อนซื้อควรสอบถามผู้ขายก่อนการตัดสินใจ
- GPS กล้องติดรถยนต์บางรุ่นจะมีระบบ GPS เพื่อที่สามารถระบุตำแหน่งที่บันทึกเหตุการณืได้ และความเร็วของรถยนต์โดยสามารถใช้ร่วมกับโปรแกรมที่มากับกล้องก็จะสามารถวาดเส้นทางการเดินทางโดยอาจใช้แผนที่จาก Google Maps ได้เลยทั้งนี้ตัวรับ GPS อาจจะติดรวมอยู่กับตัวกล้อง หรือ อุปกรณ์แยกต่างหากแล้วเชื่อมสายเข้าเข้ากับตัวกล้องติดรถก็ได้
เรียนท่านลูกค้าด้วยความเป็นห่วงจากทางเราขณะนี้บ้านเมืองเรามีม็อบมากมายซึ่งถ้าท่านเลือกกล้องติดรถยนต์ที่ไม่มีคุณภาพเวลาท่านลูกค้าเกิดอุบัติเหตุท่านจะไม่สามารถบันทึกเอาผิดจากผู้กระทำผิดได้เลย และในเดือนนี้เป็นที่มีวันสำคัญหลายวันด้วยความห่วงใยการใช้ถนนจากทางร้านเราขอให้ทุกท่านขับรถไปเที่ยวสถานที่ต่างๆด้วยความปลอด